การฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มีหลากกหลายคำที่ใช้แตกต่างกัน
เช่น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การฝึกอบรม การฝึกอบรมและพัฒนา การพัฒนาและฝึกอบรม
เป็นต้น ไม่ว่าจะใช้คำเรียกแตกต่างกันอย่างไร โดยเนื้อหาแล้ว
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นกระบวนการที่องค์กรดำเนินการกับพนักงาน เพื่อให้พนักงานมีความรู้ความสามารถ
ทักษะ หรือประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน เพื่อทำให้องค์กรประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หมายถึง กระบวนการจัดการขององค์กรเพื่อส่งเสริมให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ผลสำเร็จตามที่องค์กรตั้งเป้าหมายไว้ในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งสามารถดำเนินการพัฒนาได้หลายวิธี ได้แก่ การศึกษา การฝึกอบรม และการพัฒนา เพื่อทำให้พนักงานเกิดความรู้ ความสามารถ สมรรถนะ ทักษะ ประสบการณ์ และเจตคติที่ดี
การฝึกอบรม คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคล ที่จัดขึ้นอย่างมีระบบ ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีในการอบรมที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้เขาฝึกอบรมได้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และความชำนาญ และเกิดเจตคติที่ดีต่อการปฏิบัติงาน ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ประเภทของการฝึกอบรม
การแบ่งประเภทของการฝึกอบรม
สามารถแบ่งใหญ่ๆได้ 2 ประเภท ได้แก่ การฝึกอบรมโดยการลงมือปฏิบัติงาน (On-the-job
training) และ การฝึกอบรมที่ไม่ใช่การลงมือปฏิบัติงาน (Off-the-job
training) (สุจิตรา ธนานันท์, 2552: 54)
1.
การฝึกอบรมโดยการลงมือปฏิบัติงาน
การฝึกอบรมประเภทนี้เป็นการถ่ายทอดความรู้จากผู้ที่มีความรู้
มีทักษะและประสบการณ์สูงไปสู่พนักงานคนอื่นๆ โดยเฉพาะพนักงานใหม่ขององค์กร ได้แก่
1) การสอนงาน
(Job instruction)
การสอนงานนี้
มักเป็นการสอนงานสำหรับพนักงานใหม่ขององค์กร เพื่อให้ทราบถึงเป้าหมาย วัตถุประสงค์
และนโยบายขององค์กร และทราบถึงหน้าที่การงานต่างๆ ซึ่งมักมีคู่มือการสอนงานประกอบ
เพื่อใช้ในการศึกษางานของตนเอง
การสอนงานอาจมีทั้งการสอนแบบบรรยายและการลงมือปฏิบัติงานจริง
2) การสอนแนะ (Coaching)
การสอนแนะเป็นส่วยย่อยส่วนหนึ่งของการสอนงาน โดยผู้สอนงานซึ่งมักจะเป็นหัวหน้างานโดยตรง
มีเป้าหมายระยะสั้นในการสอนงานเพื่อให้สามารถทำงานในตำแหน่งปัจจุบันได้ตามวัตถุประสงค์ตามตำแหน่งงาน
รวมถึงการสอนในประโนการแก้ไขปัญหาในการทำงานที่อาจเกิดขึ้นได้
3) การเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring)
เป็นแนวทางให้คำแนะนำ การสอนงาน
และอบรมในการสร้างปฏิสัมพันธ์ในการปฏิบัติงาน โดยรุ่นพี่หรือผู้อยู่ตำแหน่งสูงกว่า
ถือเป็นการถ่ายทอดความรู้และความสามารถเพื่อยกระดับอาชีพของพนักงานแต่ละคนและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ
ผู้สอนอาจอยู่ในองค์กรเดียวกันหรือต่างองค์กรก็ได้
4) การหมุนงาน
(Job rotation)
การหมุนงาน คือ การโยกย้าย สับเปลี่ยน หมุนเวียนงาน
เพื่อที่จะได้เรียนรู้งานทุกด้านในองค์กรและรู้ปัญหาในการทำงานของทุกฝ่ายในองค์กร
การหมุนงานจึงก่อให้เกิดความรู้ ทักษะ ประสบการณ์
และทัศนคติในงานด้านต่างๆกว้างขวางมากขึ้น นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยลดความขัดแย้งระหว่างพนักงานในฝ่ายต่างๆได้ด้วย
รวมถึงการได้แนวคิดใหม่ๆซึ่งอาจส่งผลต่อการสร้างนวัตกรรมในอนาคตของพนักงานที่รับการหมุนงาน
5) การฝึกงาน
เป็นการผสมผสานการสอนแบบในห้องเรียนและการลงมือปฏิบัติงาน
วิธีนี้ นิยมใช้กับพนักงานด้านทักษะฝีมือ เช่น ช่างทาสี ช่างประปา ช่างตัดผม
เป็นต้น รวมถึงงานด้านวิชาชีพสำคัญหลายวิชาชีพ เช่น แพทย์
เมื่อจบใหม่ที่ต้องฝึกงานในโรงพยาบาลเพื่อให้เกิดความชำนาญในทักษะทางแพทย์ เป็นต้น
2. การฝึกอบรมที่ไม่ใช่การลงมือปฏิบัติงาน
การฝึกอบรมประเภทนี้จะต้องหยุดการปฏิบัติงานประจำในช่วงเวลาหนึ่ง
เพื่อการเรียนรู้ในสถานที่ฝึกอบรมเฉพาะ เช่น การฝึกอบรมในศูนย์ฝึกอบรมต่างๆ
ซึ่งการฝึกอบรมที่ไม่ใช่การลงมือปฏิบัติงาน มีดังนี้ คือ
1) การฝึกอบรมที่มีลักษณะให้ข้อมูล
เป็นการฝึกอบรมที่ให้ข้อมูลด้านเนื้อหาทางวิชาการ
องค์ความรู้ ทฤษฎี แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในอาชีพนั้นๆ เช่น
การบรรยาย (Lecture) การสัมมนา (Seminar)
เป็นต้น
2) การฝึกอบรมด้านพฤติกรรม
เป็นการฝึกอบรมที่ให้ความรู้ทางด้านพฤติกรรมกับผู้เข้าฝึกอบรม
โดยจุดมุ่งหมายของการฝึกอบรมประเภทนี้
เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมรู้ตัวตนของตนเองว่าเป็นอย่างไร
จะได้ทำการปรับปรุงตนเองหรือแก้ไขพฤติกรรมบางอย่างของตน ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นในองค์กรในเกิดประสิทธิผลตามความคาดหวังขององค์กร
โดยทั่วไปแล้ว การฝึกอบรมประเภทนี้มักเกี่ยวข้องกับทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
เช่น การฝึกอบรมโดยใช้บทบาทสมมุติ (Role
playing) เป็นต้น